รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ SQ4R
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้รายงาน นางแพรวไพลิน ศศิทัตต์
หน่วยงาน โรงเรียนนาหมื่นพิทยาคม อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนนาหมื่นพิทยาคม อำเภอนาหมื่นจังหวัดน่าน จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 35 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 6 เล่ม คือ เล่มที่ 1 พื้นฐานและหลักการน่ารู้ เล่มที่ 2 ข่าวสารสร้างความรู้ เล่มที่ 3 บทความน่าอ่าน เล่มที่ 4 เรื่องสั้นชวนคิด เล่มที่ 5 นิทานสอนใจ เล่มที่ 6 ร้อยกรองร้อยความคิด โดยแต่ละแบบฝึกทักษะประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 สำรวจ (Survey) กิจกรรมที่ 2 คำถาม (Question) กิจกรรมที่ 3 เพียรอ่าน (Read) กิจกรรมที่ 4 บันทึก (Record) กิจกรรมที่ 5 ท่องจำ (Recite) กิจกรรมที่ 6 สะท้อนกลับ (Reflect) ระยะเวลาในการศึกษา ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2561 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2561 รวม 20 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าดัชนีความสอดคล้องของเครื่องมือ ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนน ค่าความยากง่าย (P) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบ และค่า t (Dependent Samples)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.98/81.07 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47
ผู้รายงาน นางแพรวไพลิน ศศิทัตต์
หน่วยงาน โรงเรียนนาหมื่นพิทยาคม อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนนาหมื่นพิทยาคม อำเภอนาหมื่นจังหวัดน่าน จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 35 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 6 เล่ม คือ เล่มที่ 1 พื้นฐานและหลักการน่ารู้ เล่มที่ 2 ข่าวสารสร้างความรู้ เล่มที่ 3 บทความน่าอ่าน เล่มที่ 4 เรื่องสั้นชวนคิด เล่มที่ 5 นิทานสอนใจ เล่มที่ 6 ร้อยกรองร้อยความคิด โดยแต่ละแบบฝึกทักษะประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 สำรวจ (Survey) กิจกรรมที่ 2 คำถาม (Question) กิจกรรมที่ 3 เพียรอ่าน (Read) กิจกรรมที่ 4 บันทึก (Record) กิจกรรมที่ 5 ท่องจำ (Recite) กิจกรรมที่ 6 สะท้อนกลับ (Reflect) ระยะเวลาในการศึกษา ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2561 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2561 รวม 20 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าดัชนีความสอดคล้องของเครื่องมือ ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนน ค่าความยากง่าย (P) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบ และค่า t (Dependent Samples)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.98/81.07 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ4R ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47