รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนรัปปาปอร์ต (ตชด.บำรุงที่ 92) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
ผู้ศึกษา ดาบตำรวจเกรียงศักดิ์ ดวงใย
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนรัปปาปอร์ต (ตชด.บำรุงที่ 92) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนรัปปาปอร์ต (ตชด.บำรุงที่ 92) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 21 คน ชาย 12 คน หญิง 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้การใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 16 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลจากสถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า
1. การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1) เท่ากับ 83.49 และประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 81.29 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 24.86 สูงกว่าก่อนเรียน 18.05 มีค่าร้อยละความก้าวหน้า เท่ากับ 22.70
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก ( = 4.28)
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนรัปปาปอร์ต (ตชด.บำรุงที่ 92) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
ผู้ศึกษา ดาบตำรวจเกรียงศักดิ์ ดวงใย
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนรัปปาปอร์ต (ตชด.บำรุงที่ 92) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนรัปปาปอร์ต (ตชด.บำรุงที่ 92) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 21 คน ชาย 12 คน หญิง 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้การใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 16 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลจากสถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า
1. การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1) เท่ากับ 83.49 และประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 81.29 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 24.86 สูงกว่าก่อนเรียน 18.05 มีค่าร้อยละความก้าวหน้า เท่ากับ 22.70
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด รอบรู้ทุกงานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก ( = 4.28)