ผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะสุขศึกาาและพลศึกษา เรื่อง ดูแลตัวเราและค
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องดูแลตัวเราและครอบครัวด้วยการสร้างเสริมสุขภาพ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนบ้านออน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อผู้ศึกษา นายวีระชัย ลีพัฒนา
ปีที่ศึกษา 2555
บทคัดย่อ
รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องดูแลตัวเราและครอบครัวด้วยการสร้างเสริมสุขภาพกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านออนอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องดูแลตัวเราและครอบครัวด้วยการสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 โรงเรียนบ้านออน ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะสุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ดูแลตัวเราและครอบครัวด้วยการสร้างเสริมสุขภาพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนบ้านออนตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ปีการศึกษา 2554 ที่มีต่อชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่องดูแลตัวเราและครอบครัวด้วยการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 1 ห้อง 17 คนเป็นนักเรียนชาย 12 คน นักเรียนหญิง 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี 3ชนิดประกอบด้วยแบบฝึกเสริมทักษะชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 15 เรื่อง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา เรื่องดูแลตัวเราและครอบครัวด้วยการสร้างเสริมสุขภาพ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐานได้แก่ ค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรู้ ใช้เกณฑ์( E1/ E2 ) เท่ากับ 80/80 การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้สถิติ การหาร้อยละความก้าวหน้าของคะแนนเฉลี่ยของนักเรียน ก่อนเรียน หลังเรียน ส่วนการวัดความพึงพอใจ ด้วยค่าเฉลี่ยและร้อยละ
ผลการศึกษา
1. ประสิทธิภาพของชุดฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีค่าเท่ากับ 87.18/ 93.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนคิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 39.22
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดคิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52