รายงานผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น
เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้ศึกษา : นายวิชิต พุทธา
หน่วยงาน : โรงเรียนเทศบาล 11 หนองหิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานี
ปีที่รายงาน : 2561
บทคัดย่อ
รายงานผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน
เทศบาล 11 หนองหิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี โดยมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
(2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ วัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ในการศึกษาครั้งนี้กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 11 หนองหิน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 14 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย
1. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 แผน
2. แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
จำนวน 40 ข้อ
3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อ
การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) จำนวน 40 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการศึกษา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ E1/E2 ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) ตามเกณฑ์ และการทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test แบบ Dependent Samples ผลการศึกษา พบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 มีประสิทธิภาพ 82.62/83.04 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน และเมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 18.21 และคะแนนเฉลี่ย หลังเรียนเท่ากับ 33.21 ซึ่งคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ มีความพึงพอใจ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะทั่วไป
1.1 ควรนำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) ไปปรับใช้กับนักเรียนห้องอื่น หรือระดับชั้นอื่น ๆ โดยปรับเนื้อหา ระยะเวลาให้ยืดหยุ่นเหมาะสมกับสภาพนักเรียนและบริบทของห้องเรียนนั้น ๆ
1.2 ครูควรกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยใช้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและน่าสนใจในปัจจุบัน รวมถึงใช้คำถามที่น่าสนใจ โดยจัดลำดับคำถามให้ชัดเจนไม่วกวนไปมา
1.3 ผู้ที่จะนำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ตัวประกอบของจำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ควรทำการปฐมนิเทศนักเรียนให้เข้าใจแนวทางการเรียนรู้ก่อน และครูควรวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนโดยแยกเป็นกลุ่ม เก่ง ปานกลางและอ่อนเพื่อการจัดกลุ่มโดยคละเด็กเก่ง กลาง และอ่อน เพื่อประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้
2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาต่อไป
2.1 ควรมีการพัฒนาแผนการสอนและเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนเพิ่มเติม
2.2 ควรมีการเปรียบเทียบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) และการจัดการเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ
2.3 ควรมีการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) กับสาระการเรียนรู้อื่น ๆ โดยปรับให้เหมาะสมกับสภาพผู้เรียนและสภาพแวดล้อมของผู้ศึกษา
2.4 ในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น (5Es) การแบ่งเนื้อหาย่อย ๆ ออกเป็นส่วน ๆ นั้นควรคำนึงถึงเวลาที่ใช้ในการเรียนการสอนด้วย