ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา ที่มีต่อผ
ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวไซลัน สาและ
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา เทียบกับเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนดร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม และจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนรวม 24 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random Sampling) โดยการจับสลาก มีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา จำนวน 10 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.25/83.19 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5328 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 53.28
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 24.96 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.19 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ80 และเมื่อพิจารณาจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด พบว่า นักเรียนที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม จำนวน 20 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 24 คน คิดเป็นร้อยละ 83.33 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวไซลัน สาและ
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา เทียบกับเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนดร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม และจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนรวม 24 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random Sampling) โดยการจับสลาก มีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา จำนวน 10 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.25/83.19 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5328 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 53.28
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เรื่อง เวลา ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 24.96 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.19 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ80 และเมื่อพิจารณาจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด พบว่า นักเรียนที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม จำนวน 20 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 24 คน คิดเป็นร้อยละ 83.33 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้