รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้5Es
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้5Es
เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน ธิดารัตน์ จิโนเป็ง
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการศึกษาการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาคือ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้ได้ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ประชากร ที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนบ้านเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 54 คน
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนบ้านเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ปีการศึกษา 2560 ซึ่งใช้วิธีการเลือกแบบเป็นกลุ่ม จำนวน 27 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t – test
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่องแรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมพบว่า มีประสิทธิภาพ E1/ E2 = 91.06 / 87.70 และผลประสิทธิภาพคะแนนระหว่างเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es จำนวน 5 ชุดกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่า คะแนนระหว่างเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es ทั้ง 5 ชุด มีค่า = 9.11 คิดเป็นร้อยละ 91.06 คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่า = 34.04 คิดเป็นร้อยละ 85.09 มีค่าประสิทธิภาพ E1/ E2 = 91.06 / 85.09
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมพบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน (34.04/17.44) อัตราการพัฒนาและร้อยละอัตราการพัฒนา (16.59/40.74) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (X= 4.47)
เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน ธิดารัตน์ จิโนเป็ง
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการศึกษาการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาคือ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้ได้ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ประชากร ที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนบ้านเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 54 คน
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนบ้านเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ปีการศึกษา 2560 ซึ่งใช้วิธีการเลือกแบบเป็นกลุ่ม จำนวน 27 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t – test
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่องแรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมพบว่า มีประสิทธิภาพ E1/ E2 = 91.06 / 87.70 และผลประสิทธิภาพคะแนนระหว่างเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es จำนวน 5 ชุดกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่า คะแนนระหว่างเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es ทั้ง 5 ชุด มีค่า = 9.11 คิดเป็นร้อยละ 91.06 คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่า = 34.04 คิดเป็นร้อยละ 85.09 มีค่าประสิทธิภาพ E1/ E2 = 91.06 / 85.09
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมพบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน (34.04/17.44) อัตราการพัฒนาและร้อยละอัตราการพัฒนา (16.59/40.74) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้5Es เรื่อง แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (X= 4.47)