LASTEST NEWS

06 ต.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 06 ต.ค. 2567โรงเรียนบางละมุง รับสมัครครูอัตราจ้าง 7 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 18 ตุลาคม 2567 05 ต.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 05 ต.ค. 2567วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ รับสมัครครูอัตราจ้าง 3 อัตรา และเจ้าหน้าที่ธุรการ 2 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 15 ตุลาคม 2567  04 ต.ค. 2567โรงเรียนวัดบวรนิเวศ รับสมัครพนักงานขับรถ จำนวน 1 อัตรา เงินเดือน 12,000.-บาท มีประกันสังคม และที่พัก ตั้งแต่บัดนี้ - 24 ตุลาคม 2567 04 ต.ค. 2567โรงเรียนวัดบวรนิเวศ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท มีประกันสังคม และที่พักในโรงเรียน ตั้งแต่บัดนี้ - 21 ตุลาคม 2567 04 ต.ค. 2567ยินดีด้วยครับ!! สอศ.เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 1 จำนวน 415 อัตรา - รายงานตัว 10-11 ต.ค.2567 03 ต.ค. 2567โรงเรียนนาน้อย รับสมัครครูผู้สอน 2 อัตรา เงินเดือน 9,500.- บาท ตั้งแต่วันที่ 7 - 13 ตุลาคม 2567 03 ต.ค. 2567ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 02 ต.ค. 2567สอศ.ประกาศผลสอบครูผู้ช่วย เช็กรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ขึ้นบัญชีบรรจุครูผู้ช่วย อาชีวะ ปี 2567 ได้ที่นี่

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้

usericon

ชื่องานวิจัย     การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้คำถาม R-C-A วิชาการงานอาชีพพื้นฐาน เรื่องการถนอมอาหาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย        ธนพรพรหมชนก พรโสภิณ
ตำแหน่ง    ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด        โรงเรียนเนินสง่า อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ปีการศึกษา    2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้คำถาม R-C-A วิชาการงานอาชีพพื้นฐาน เรื่องการถนอมอาหาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้และ (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้คำถาม R-C-A วิชาการงานอาชีพพื้นฐาน เรื่องการถนอมอาหาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ (1) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (2) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (3) เอกสารเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการการเรียนรู้ (4) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเนินสง่าวิทยา ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2559 จำนวน 30 คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) (5) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนเนินสง่าวิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 รวมจำนวน 10 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ (1) ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ในการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) (2) นักเรียนที่ใช้ในการทดสอบหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เป็นนักเรียนโรงเรียนเนินสง่าวิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนเนินสง่าวิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 31 ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ คู่มือการใช้รูปแบบ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบทดสอบวัดทักษะชีวิต แบบประเมินทักษะการทำงานกลุ่ม และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
    1. ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่า การจัดการเรียนรู้ต้องเน้นผู้เรียนมีทักษะในการปฏิบัติงานตามขั้นตอนและกระบวนการทำงาน ลงมือปฏิบัติจริง สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้จริง นักเรียนมีความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการกลุ่ม ใช้การวิจัยและการแก้ปัญหาเป็นฐาน ส่วนครูผู้สอนต้องการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการดำรงชีวิตและครอบครัว เกี่ยวกับการทำงานในชีวิตประจำวันทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคม ส่งเสริมให้นักเรียนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดีต่อการมีชีวิต มีทักษะชีวิต ทักษะการทำงานกลุ่มและสามารถปรับตัว ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
    2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้คำถาม R-C-A วิชาการงานอาชีพพื้นฐาน เรื่องการถนอมอาหาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรียกว่า “PIPTEQ Model” ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดกิจกรรม การวัดและประเมินผล และ เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ ซึ่งมีขั้นตอนการจัดกิจกรรม 6 ขั้นตอนดังนี้ (1) ขั้นเตรียม (Preparation: P) (2) ขั้นสอน (Instruction: I) (3) ขั้นลงมือปฏิบัติ (Practice: P) (4) ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ (Test: T) (5) ขั้นสรุปและประเมินผลการทำงานกลุ่ม (Evaluation: E) และ (6) ขั้นใช้คำถาม R-C-A (Question R-C-A : Q) และมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.93 , S.D. = 0.11) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.29/81.92
    3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้คำถาม R-C-A วิชาการงานอาชีพพื้นฐาน เรื่องการถนอมอาหาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า (1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) ทักษะชีวิตของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (3) ทักษะการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x-bar = 4.20, S.D. = 0.08)
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการใช้คำถาม R-C-A วิชาการงานอาชีพพื้นฐาน เรื่องการถนอมอาหาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากที่สุด (x-bar = 4.59, S.D. = 0.66) ทุกรายการประเมินผ่านเกณฑ์ที่กำหนดคือ 3.50 ขึ้นไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^