เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดด่านประชากร
ผู้วิจัย ว่าที่ ร.ต. ธวัชชัย ธรรมนารักษ์
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดด่านประชากร กองการศึกษา เทศบาลเมืองหลังสวน
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ประเมินรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาลวัดด่านประชากร เทศบาลเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลาก 1 ห้องเรียนจากนักเรียนทั้งหมด 2 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่องชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่องชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นใช้ชื่อเรียกว่า “PETDC Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมี 5 ขั้นตอนได้แก่ 1) ขั้นนำเสนอบทเรียน (Present) 2) ขั้นสร้างความสนใจ(Engagement) 3) ขั้นสอน(Teaching) 4) ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) และ 5) ขั้นสรุปผล (Conclusion) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ต้องการให้พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ควบคู่กับกิจกรรมกลุ่มและการทำแบบฝึกหัด บทเรียนมีภาพสีสันสดใส มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายไม่น่าเบื่อพร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 78.67/76.67 ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.67/78.33 และค่าประสิทธิภาพ E1/E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.67/80.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 29 คนได้ค่าประสิทธิ ภาพ E1/E2 เท่ากับ 85.29/83.24 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด
ผู้วิจัย ว่าที่ ร.ต. ธวัชชัย ธรรมนารักษ์
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดด่านประชากร กองการศึกษา เทศบาลเมืองหลังสวน
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ประเมินรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาลวัดด่านประชากร เทศบาลเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลาก 1 ห้องเรียนจากนักเรียนทั้งหมด 2 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่องชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่องชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นใช้ชื่อเรียกว่า “PETDC Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมี 5 ขั้นตอนได้แก่ 1) ขั้นนำเสนอบทเรียน (Present) 2) ขั้นสร้างความสนใจ(Engagement) 3) ขั้นสอน(Teaching) 4) ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) และ 5) ขั้นสรุปผล (Conclusion) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ต้องการให้พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ควบคู่กับกิจกรรมกลุ่มและการทำแบบฝึกหัด บทเรียนมีภาพสีสันสดใส มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายไม่น่าเบื่อพร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 78.67/76.67 ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.67/78.33 และค่าประสิทธิภาพ E1/E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.67/80.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 29 คนได้ค่าประสิทธิ ภาพ E1/E2 เท่ากับ 85.29/83.24 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต เรื่อง ชีวิตและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด