แบบฝึกทักษะการเรียนรู้ เรื่อง ลักษณะของประโยคในภาษาไทย
ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21102 เรื่อง ลักษณะของประโยคในภาษาไทย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เล่มที่ 1 ประโยคในภาษาไทย เท่ากับ 84.07/83.78 เล่มที่ 2 หน้าที่ของประโยคในภาษาไทย เท่ากับ 82.84/82.89 เล่มที่ 3 ประโยคความเดียว เท่ากับ 83.26/83.11 เล่มที่ 4 ประโยคความรวม เท่ากับ 82.76/83.11 และเล่มที่ 5 ประโยคความซ้อน เท่ากับ 83.89/82.67 โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.28/82.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท22102 เรื่อง ลักษณะของประโยคในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 14.22 คิดเป็นร้อยละ 47.41 นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 26.27 คิดเป็นร้อยละ 87.56 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้น 12.04 คิดเป็นร้อยละ 40.15 และคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ในภาพรวมนักเรียนพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย (X ̅) = 4.80 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.44 เมื่อพิจารณาเป็นรายการพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับแบบฝึก อันดับ 1 คือ ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ โดยมีค่าเฉลี่ย (X ̅) = 4.82 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.07 อันดับ 2 คือ ด้านรูปแบบของแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ โดยมีค่าเฉลี่ย (X ̅) = 4.82 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.10 อันดับ 3 ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีค่าเฉลี่ย (X ̅) = 4.81 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.10 และอันดับ 4 คือ ด้านเนื้อหา โดยมีค่าเฉลี่ย (X ̅) = 4.77 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.05