การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวภัทรวดี คำยา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนนาข่าวิทยาคม สำนักการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด
2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 15 แผน
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.37-0.77 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.24-0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 17 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่
0.25-0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.47/83.23 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6574 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 65.74
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวภัทรวดี คำยา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนนาข่าวิทยาคม สำนักการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด
2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 15 แผน
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.37-0.77 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.24-0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 17 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่
0.25-0.79 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.47/83.23 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6574 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 65.74
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง เพิ่มทักษะพัฒนาการเขียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก