การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทัก
บทคัดย่อ
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนา การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษา ต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียน และหลังเรียนด้วยการจัด การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่าง ประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ภาษา อังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๕ อาคารสลากกินแบ่งรัฐบาล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 66 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๕ อาคารสลากกินแบ่งรัฐบาล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการ ศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 แผน 18 ชั่วโมง
2) แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแบบอัตนัย จำนวน 1 ฉบับ จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการ ศึกษา พบว่า 1) ประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.33/91.48 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.8397 4) ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่าง ประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.60
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนา การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษา ต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียน และหลังเรียนด้วยการจัด การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่าง ประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ภาษา อังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๕ อาคารสลากกินแบ่งรัฐบาล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 66 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๕ อาคารสลากกินแบ่งรัฐบาล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการ ศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 แผน 18 ชั่วโมง
2) แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแบบอัตนัย จำนวน 1 ฉบับ จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการ ศึกษา พบว่า 1) ประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.33/91.48 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.8397 4) ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่าง ประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.60