รายงานการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที3
ที่ปรึกษา นายสิทธิ์ สุระโคตร
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) สร้างและพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ 1) แผนการเรียนรู้ประกอบการใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ จำนวน 10 แผน 2) บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ ที่มีประสิทธิภาพ 84.57/83.45 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 จำนวน 10 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ 0.88 ค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.20 ถึง 0.53 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป และ4) แบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ
สรุปผลการวิจัย
1. บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง สุขภาพต้องใส่ใจ มีประสิทธิภาพ 84.57/83.45 แสดงว่าบทเรียนสำเร็จรูปที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องสุขภาพต้องใส่ใจ มีค่าเท่ากับ 0.6819 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 66.75
3. ความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องสุขภาพต้องใส่ใจ โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจมากที่สุดในรายการประเมิน 2 รายการ ได้แก่ เนื้อหาเรื่องสุขภาพต้องใส่ใจเป็นเรื่องที่สำคัญ กิจกรรมในบทเรียนสำเร็จรูปมีความหลากหลาย ท้าทายให้ศึกษา และในรายการที่นักเรียนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด ได้แก่ เมื่อมีการทดสอบนักเรียนพอใจในคะแนน ที่นักเรียนทำได้เสมอ