ชุดกิจกรรมการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การประดิษฐ์ข
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมีวัตถุประสงค์เฉพาะตามกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) คือ 1) เพื่อศึกษาการพัฒนาชุดกิจกรรม 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพชุดกิจกรรม 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้ชุดกิจกรรม โดยประกอบไปด้วย 3.1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม ตามเกณฑ์ 80/80 3.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียนการใช้ชุดกิจกรรม และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจชุดกิจกรรมผู้วิจัยได้ดำเนินการพัฒนาตามกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาการพัฒนาชุดกิจกรรม เก็บรวมรวมข้อมูลจากเอกสาร งานวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพชุดกิจกรรม เก็บรวมรวมข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และนักเรียนกลุ่มทดลอง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 3 คน กลุ่ม 6 คน และกลุ่ม 9 คน ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาประสิทธิภาพการใช้ชุดกิจกรรม และขั้นตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจชุดกิจกรรม เก็บรวมรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองนากวางอั้น จำนวน 16 คน
ผลการวิจัยและพัฒนาพบว่า
1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพการใช้ชุดกิจกรรม E1/E2 ตามเกณฑ์ 80/80 ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 16 คน มีประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน E1/E2 เท่ากับ 96.03/93.09 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อทำการทดสอบโดยใช้สถิติทดสอบที (t-Test) พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการประเมินความพึงพอใจชุดกิจกรรม ในภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
การวิจัยและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมีวัตถุประสงค์เฉพาะตามกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) คือ 1) เพื่อศึกษาการพัฒนาชุดกิจกรรม 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพชุดกิจกรรม 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้ชุดกิจกรรม โดยประกอบไปด้วย 3.1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม ตามเกณฑ์ 80/80 3.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียนการใช้ชุดกิจกรรม และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจชุดกิจกรรมผู้วิจัยได้ดำเนินการพัฒนาตามกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาการพัฒนาชุดกิจกรรม เก็บรวมรวมข้อมูลจากเอกสาร งานวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพชุดกิจกรรม เก็บรวมรวมข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และนักเรียนกลุ่มทดลอง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 3 คน กลุ่ม 6 คน และกลุ่ม 9 คน ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาประสิทธิภาพการใช้ชุดกิจกรรม และขั้นตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจชุดกิจกรรม เก็บรวมรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองนากวางอั้น จำนวน 16 คน
ผลการวิจัยและพัฒนาพบว่า
1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพการใช้ชุดกิจกรรม E1/E2 ตามเกณฑ์ 80/80 ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 16 คน มีประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน E1/E2 เท่ากับ 96.03/93.09 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อทำการทดสอบโดยใช้สถิติทดสอบที (t-Test) พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการประเมินความพึงพอใจชุดกิจกรรม ในภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด