นายไพรมณี โสภาไฮ ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
ผู้วิจัย นายไพรมณี โสภาไฮ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้า (โรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด)
สังกัด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูปแบบ รวมมือเทคนิค STADการวิจัย ครั้งนี้มีวัตถุประสงคของการวิจัย 1)เพื่อพัฒนาแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับ จํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูปแบบรวมมือเทคนิค STAD ใหมีประสิทธิภาพตามเกณฑ 75/75 2)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูปแบบรวมมือเทคนิค STAD 3)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา คณิตศาสตรพื้นฐาน กอนเรียนและหลังเรียน เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริงชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD และ 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีตอแบบ ฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD กลุมตัวอยางที่ใชในการวิจัยครั้งนี้ ไดแก นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2/2โรงเรียนเทศบาลหนอง หญามา (โรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองรอยเอ็ด) จังหวัดรอยเอ็ด สํานักงานการศึกษาเทศบาลเมืองรอยเอ็ด ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2560 จํานวน 1 หองเรียน มีนักเรียนจํานวน 40 คน ซึ่งเลือก โดยการใชวิธีการสุมแบบกลุม(Custer Random Sampling) ดวยการจับสลากโดยใชหองเรียนเปนหนวย การสุม เครื่องมือที่ใชในการวิจัยมี 4 ชนิด ไดแก 1)คูมือการใชแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรู เบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรู แบบรวมมือเทคนิค STADรวมเวลา 18 ชั่วโมง2)แบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับ จํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรู แบบ รวมมือเทคนิค STAD จํานวน 8 เลม 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 เปนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจํานวน30ขอมีคาความยาก (p) ตั้งแต.20 - .80มีคา อํานาจจําแนกรายขอ (r) ตั้งแต.20 - .70 และคาความเชื่อมั่นทั้งฉบับเทากับ .87และ 4) แบบสอบถาม ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีตอแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชา คณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรู แบบรวมมือเทคนิค STADเปนชนิดมาตราสวนประมาณคา (Rating Scale) 5 ระดับจํานวน 20 ขอมีคาความเชื่อมั่นของ ข แบบสอบถามทั้งฉบับเทากับ .89สถิติที่ใชในการวิเคราะหขอมูล ไดแกรอยละคาเฉลี่ยสวนเบี่ยงเบน มาตรฐานและการทดสอบสมมุติฐานใชt – test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบวา การพัฒนาแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตร พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STADสรุปผลไดดังนี้ 1. ประสิทธิภาพดานกระบวนการ ( 1E ) เทากับ 81.56และประสิทธิภาพดานผลลัพธ ( 2E ) เทากับ 80.17 ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝกทักษะคณิตศาสตรเรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD มี ประสิทธิภาพ ( 1E / 2E )เทากับ 81.56/80.17 ซึ่งสูงกวาเกณฑ 75/75ที่กําหนดไว 2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชา คณิตศาสตรพื้นฐานชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD มีคาเทากับ 0.6079 แสดงวา นักเรียนที่เรียนดวยแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD มี ความกาวหนาทางการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเปนรอยละ 60.79 3. นักเรียนที่เรียนดวยของแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิคSTADมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกวากอนเรียน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีตอแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับ จํานวนจริง วิชาคณิตศาสตรพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD โดยภาพรวมมีคาเฉลี่ยเทากับ 4.69 และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานเทากับ 4.09 แสดงวา นักเรียนมี ความพึงพอใจตอแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เรื่องความรูเบื้องตนเกี่ยวกับจํานวนจริง วิชาคณิตศาสตร พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 โดยใชการจัดการเรียนรูแบบรวมมือเทคนิค STAD อยูในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเปนรายขอ พบวา ทุกขอมีความพึงพอใจอยูในระดับมากที่สุดทุกขอ จากผลการศึกษาสามารถนําไปใชในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อสงเสริมผูเรียนให สามารถสรางองคความรูไดดวยตนเอง สรุปความคิดรวบยอดจากสิ่งที่พบเห็นและเชื่อมโยงความรูสงผลให การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนั้น จึงควรสนับสนุนสงเสริมใหครูนําไปใชจัดกิจกรรม การเรียนการสอนในระดับชั้นอื่น ๆ หรือในเนื้อหาสาระอื่น ๆ ตอไป