รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน ของนักเรียนโรง
ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน ของนักเรียนโรงเรียนบ้านราไว
ปีการศึกษา 2560
ผู้ประเมิน : นายสุนันท์ เหร็มดี
หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านราไว อ าเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2561
บทสรุปส าหรับผู้บริหาร
การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการด าเนินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน
การเขียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านราไว ประจ าปีการศึกษา 2561 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สตูล โดยการด าเนิน ตั้งแต่เริ่มด าเนินการจนสิ้นสุดโครงการ และเพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง หลัง
การด าเนินงานตามโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปน์(cipp Model) ประกอบด้วย การประเมิน
สภาพแวดล้อม การประเมินปัจจัยเบื้องต้น การประเมินกระบวนการ และการประเมินผลผลิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน
การศึกษาได้แก่ครูผู้สอนจ านวน 8 คน นักเรียนจ านวน 65 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เลือก
เจาะจงเว้นผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน จ านวน 9 คน ผู้ปกครองใช้xxxส่วนนักเรียน (1 คน / ผู้ปกครอง 1 คน)
จ านวน 65 คน รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 147 คน โดยใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ใน
การศึกษาแบ่งออกเป็น 6 ฉบับ คือ
ฉบับที่ 1 แบบสอบถามด้านภาพแวดล้อมของโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอน และ
กรรมการสถานศึกษา ก่อนด าเนินโครงการมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 08873
ฉบับที่ 2 แบบสอบถามด้านปัจจัยน าเข้าของโครงการตามความคิดของครูผู้สอน และกรรมการ
สถานศึกษา ก่อนด าเนินโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 08862
ฉบับที่ 3 แบบสอบถามด้านกระบวนการของโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอนและ
กรรมการสถานศึกษา ระหว่างด าเนินโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 08917
ฉบับที่ 4 แบบสอบถามด้านผลผลิตโครงการผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการของนักเรียนตาม
ความคิดเห็นของนักเรียน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 08896
ฉบับที่ 5 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรม ทั้ง 5 กิจกรรม ตาม
ความคิดเห็นของนักเรียน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 08926
ฉบับที่ 6 แบบสอบถามความพึงพอใจในการด าเนินโครงการพัฒนาการอ่าน การเขียนโรงเรียน
บ้านราไวตามความคิดเห็นของครู นักเรียน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน หลังเสร็จสิ้น
โครงการมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 08948
การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาปรากฎดังนี้
18 สภาพแวดล้อมของโครงการ ครูและกรรมการสถานศึกษา มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ใน
ระดับมากที่สุด (
= 4854) โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากที่สุด ยกเว้นโครงการสอดคล้องกับนโยบาย
และแผนของต้นสังกัด และวัตถุประสงค์ของโครงการ พัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนอย่างชัดเจน อยู่ในระดับ
มาก (
= 3868 ) และ (
= 3852 )
28 ปัจจัยน าเข้าของโครงการ ครู และกรรมการสถานศึกษา มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (
= 4800) โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ยกเว้นความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับ
มากที่สุด (
= 4874) และพบว่าความส าคัญของการอ่าน และการเขียนว่ามีผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน มี
ค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 4884 ) และงบประมาณที่โรงเรียนจัดสรรเพื่อจัดซื้อหนังสือ มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด (
= 3836)
38 กระบวนการโครงการ ครู และกรรมการสถานศึกษา มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (
= 4820) โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ซึ่งด้านการวางแผนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
=
4844) ด้านการติดตามผล มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด (
= 3896) และพบว่าการประชุมวางแผนและประชาสัมพันธ์แผนงาน
โครงการให้นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาได้รับทราบและข้อมีการแบ่งหน้าที่ผู้รับผิดชอบแต่ละ
กิจกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 4878) มีการประชุมน าปัญหาต่าง ๆ มาวางแผนการด าเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ย
ต่ าสุด (
= 3852)
48 ผลผลิตของโครงการ ได้แก่
481 นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3864)
องค์ประกอบส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ยกเว้นนักเรียนเห็นความส าคัญในการอ่านและการเขียนหนังสือ
อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4873) โดยนักเรียนน าความรู้ที่ได้รับจากการอ่านไปเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ อย่าง
สร้างสรรค์ (
= 3828) นักเรียนยืมหนังสือจากห้องสมุดในโรงเรียน หรือแหล่งความรู้ต่างๆ ไปอ่านที่บ้าน (
=
2.70) นักเรียนจะรู้สึกหงุดหงิด เมื่อมีใครมาขัดจังหวะการอ่านและการเขียนหนังสือ และนักเรียนชอบที่จะได้รับ
รางวัลเป็นหนังสือมากกว่าอย่างอื่น (
= 3882) ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง
482 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3879)
โดยพบว่า กิจกรรมวางทุกงาน อ่านทุกคน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 3896) กิจกรรมเรียงร้อยถ้อยค าตามจินตนาการ
มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด (
= 3862)
483 ความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมตามโครงการของ ครูกรรมการสถานศึกษาและ
ผู้ปกครองโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 4842) ซึ่งพบว่า ครูมีความพึงพอใจ โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 4847)
รองลงมา ผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน (
= 4841)
ปีการศึกษา 2560
ผู้ประเมิน : นายสุนันท์ เหร็มดี
หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านราไว อ าเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2561
บทสรุปส าหรับผู้บริหาร
การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการด าเนินโครงการพัฒนาทักษะการอ่าน
การเขียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านราไว ประจ าปีการศึกษา 2561 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สตูล โดยการด าเนิน ตั้งแต่เริ่มด าเนินการจนสิ้นสุดโครงการ และเพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง หลัง
การด าเนินงานตามโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปน์(cipp Model) ประกอบด้วย การประเมิน
สภาพแวดล้อม การประเมินปัจจัยเบื้องต้น การประเมินกระบวนการ และการประเมินผลผลิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน
การศึกษาได้แก่ครูผู้สอนจ านวน 8 คน นักเรียนจ านวน 65 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เลือก
เจาะจงเว้นผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน จ านวน 9 คน ผู้ปกครองใช้xxxส่วนนักเรียน (1 คน / ผู้ปกครอง 1 คน)
จ านวน 65 คน รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 147 คน โดยใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ใน
การศึกษาแบ่งออกเป็น 6 ฉบับ คือ
ฉบับที่ 1 แบบสอบถามด้านภาพแวดล้อมของโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอน และ
กรรมการสถานศึกษา ก่อนด าเนินโครงการมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 08873
ฉบับที่ 2 แบบสอบถามด้านปัจจัยน าเข้าของโครงการตามความคิดของครูผู้สอน และกรรมการ
สถานศึกษา ก่อนด าเนินโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 08862
ฉบับที่ 3 แบบสอบถามด้านกระบวนการของโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอนและ
กรรมการสถานศึกษา ระหว่างด าเนินโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 08917
ฉบับที่ 4 แบบสอบถามด้านผลผลิตโครงการผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการของนักเรียนตาม
ความคิดเห็นของนักเรียน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 08896
ฉบับที่ 5 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรม ทั้ง 5 กิจกรรม ตาม
ความคิดเห็นของนักเรียน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 08926
ฉบับที่ 6 แบบสอบถามความพึงพอใจในการด าเนินโครงการพัฒนาการอ่าน การเขียนโรงเรียน
บ้านราไวตามความคิดเห็นของครู นักเรียน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน หลังเสร็จสิ้น
โครงการมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 08948
การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาปรากฎดังนี้
18 สภาพแวดล้อมของโครงการ ครูและกรรมการสถานศึกษา มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ใน
ระดับมากที่สุด (
= 4854) โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากที่สุด ยกเว้นโครงการสอดคล้องกับนโยบาย
และแผนของต้นสังกัด และวัตถุประสงค์ของโครงการ พัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนอย่างชัดเจน อยู่ในระดับ
มาก (
= 3868 ) และ (
= 3852 )
28 ปัจจัยน าเข้าของโครงการ ครู และกรรมการสถานศึกษา มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (
= 4800) โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ยกเว้นความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับ
มากที่สุด (
= 4874) และพบว่าความส าคัญของการอ่าน และการเขียนว่ามีผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน มี
ค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 4884 ) และงบประมาณที่โรงเรียนจัดสรรเพื่อจัดซื้อหนังสือ มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด (
= 3836)
38 กระบวนการโครงการ ครู และกรรมการสถานศึกษา มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (
= 4820) โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ซึ่งด้านการวางแผนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
=
4844) ด้านการติดตามผล มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด (
= 3896) และพบว่าการประชุมวางแผนและประชาสัมพันธ์แผนงาน
โครงการให้นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาได้รับทราบและข้อมีการแบ่งหน้าที่ผู้รับผิดชอบแต่ละ
กิจกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 4878) มีการประชุมน าปัญหาต่าง ๆ มาวางแผนการด าเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ย
ต่ าสุด (
= 3852)
48 ผลผลิตของโครงการ ได้แก่
481 นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3864)
องค์ประกอบส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ยกเว้นนักเรียนเห็นความส าคัญในการอ่านและการเขียนหนังสือ
อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4873) โดยนักเรียนน าความรู้ที่ได้รับจากการอ่านไปเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ อย่าง
สร้างสรรค์ (
= 3828) นักเรียนยืมหนังสือจากห้องสมุดในโรงเรียน หรือแหล่งความรู้ต่างๆ ไปอ่านที่บ้าน (
=
2.70) นักเรียนจะรู้สึกหงุดหงิด เมื่อมีใครมาขัดจังหวะการอ่านและการเขียนหนังสือ และนักเรียนชอบที่จะได้รับ
รางวัลเป็นหนังสือมากกว่าอย่างอื่น (
= 3882) ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง
482 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3879)
โดยพบว่า กิจกรรมวางทุกงาน อ่านทุกคน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 3896) กิจกรรมเรียงร้อยถ้อยค าตามจินตนาการ
มีค่าเฉลี่ยต่ าสุด (
= 3862)
483 ความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมตามโครงการของ ครูกรรมการสถานศึกษาและ
ผู้ปกครองโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 4842) ซึ่งพบว่า ครูมีความพึงพอใจ โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (
= 4847)
รองลงมา ผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน (
= 4841)