รายงานผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยการเทคนิคการสอนแบบ
STAD เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3
ผู้รายงาน นางสาวนันทิยา พรมทา
สถานศึกษา โรงเรียนดงเย็นวิทยาคม
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการเทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 จัดทำขึ้น โดยมีความมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อพัฒนา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนดงเย็นวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือ
ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยการเทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอน
แบบ STAD 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถาม
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.11/76.55 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยรวม
มีค่าเฉลี่ย 4.52 อยู่ในระดับมากที่สุด
STAD เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3
ผู้รายงาน นางสาวนันทิยา พรมทา
สถานศึกษา โรงเรียนดงเย็นวิทยาคม
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยการเทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 จัดทำขึ้น โดยมีความมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อพัฒนา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนดงเย็นวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือ
ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยการเทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอน
แบบ STAD 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถาม
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.11/76.55 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยรวม
มีค่าเฉลี่ย 4.52 อยู่ในระดับมากที่สุด