รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่
สถานศึกษา โรงเรียนวัดท่าต้นกวาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4
ชื่อผู้ศึกษา วิไลรัตน์ มาลีพัตร
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพอยู่ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มประชากรในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนวัดท่าต้นกวาว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 จำนวน 1 ห้องเรียน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษารวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 7 เล่มย่อย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ จำนวน 14 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.78 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ซึ่งมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.81 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชา วิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยค่าร้อยละ เปรียบเทียบผลต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนโดยใช้สูตรการทดสอบของค่าที (t – test : Dependent Group) และวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยการหาค่าเฉลี่ย (μ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (б ) แล้วแปรผลตามเกณฑ์ที่กำหนดผลการศึกษา พบว่า
1. ได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.13/82.14 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีระดับความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เฉลี่ย 4.57