รายงานผลการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้รายงาน นางอรชา สิริเบญจพรหม
หน่วยงาน โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 30 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้รายงานดำเนินการสร้างขึ้น จำนวน 7 เรื่อง แผนการจัด การเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ข้อ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test
ผลการศึกษาพบว่า หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพโดยรวม E1/E2 เท่ากับ 84.10/82.33 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ นักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมทั้ง 7 เรื่อง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.40
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้รายงาน นางอรชา สิริเบญจพรหม
หน่วยงาน โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 30 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้รายงานดำเนินการสร้างขึ้น จำนวน 7 เรื่อง แผนการจัด การเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ข้อ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test
ผลการศึกษาพบว่า หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด คิดดี ทำดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพโดยรวม E1/E2 เท่ากับ 84.10/82.33 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ นักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมทั้ง 7 เรื่อง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.40