บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชื่อเรื่อง ผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้ศึกษา นางสาวสุนิสา พอดี
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
ผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป ที่พัฒนาขึ้น และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง
กลุ่มประชากรที่ใช้ในการทดลองเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่า สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 10 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วน-เบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1) บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.23/81.85 เท่ากับเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2) ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เท่ากับ .6864 แสดงว่า หลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ผู้เรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.64
3) ค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้ สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แตกต่างกัน โดยค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 12.86 คิดเป็นร้อยละ 42.86 และค่าเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 24.43 คิดเป็นร้อยละ 81.43 ผลต่างของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 11.57 คิดเป็นร้อยละ 38.57 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
4) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
ผู้ศึกษา นางสาวสุนิสา พอดี
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
ผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป ที่พัฒนาขึ้น และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง
กลุ่มประชากรที่ใช้ในการทดลองเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่า สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 10 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วน-เบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1) บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.23/81.85 เท่ากับเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2) ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เท่ากับ .6864 แสดงว่า หลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ผู้เรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.64
3) ค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้ สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แตกต่างกัน โดยค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 12.86 คิดเป็นร้อยละ 42.86 และค่าเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 24.43 คิดเป็นร้อยละ 81.43 ผลต่างของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 11.57 คิดเป็นร้อยละ 38.57 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
4) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์น่ารู้สู่การดำรงชีวิตที่พอเพียง โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก