รายงานผลการพัฒนากิจกรรมการเล่นพื้นบ้านเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม
ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1)
ผู้รายงาน นางสาวนะภา เสนสาย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1)
กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เสร้างกิจกรรมการเล่นพื้นบ้านเพื่อทักษะทางสังคมของเด็กชั้นอนุบาลปีที่2 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) พัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) ด้วยกิจกรรมการเล่นพื้นบ้าน และ3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางสังคมของเด็กชั้นอนุบาลปีที่2 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเล่นพื้นบ้าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 17 คน คัดเลือกโดยคัดเลือกโดยวิธีเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยวิธีจับฉลากโดยมีหน่วยสุ่มเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ กิจกรรมการเล่นพื้นบ้านจำนวน 18 กิจกรรม มีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 ถือว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด แผนการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการเล่นพื้นบ้าน จำนวน 19 แผน ที่ผ่านการตรวจหาคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.17 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ถือว่าแผนการจัดประสบการณ์มีความสอดคล้องเหมาะสมมาก แบบสังเกตทักษะทางสังคมของเด็กปฐมวัยมีจำนวน 6 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างระดับพฤติกรรมกับจุดประสงค์อยู่ระหว่าง 0.67-1.00 และค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
จากการพัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1)ที่ได้รับจากการพัฒนาโดยใช้กิจกรรมการเล่นพื้นบ้าน สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเล่นพื้นบ้านเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กชั้น
อนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) ตามเกณฑ์ 80/80 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 95.70/96.08
2. เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) มีคะแนน
ทักษะทางสังคมอยู่ในระดับ ดี
3. เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนวัดแคนอก (คณะราษฎรบำรุง 1) หลังการจัดกิจกรรมการเล่นพื้นบ้านมีคะแนนทักษะทางสังคมเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเล่นพื้นบ้าน ทั้งทักษะทางสังคมรายด้าน และทักษะทางสังคมโดยรวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเป็นแนวทางการจัดประสบการณ์สำคัญที่พัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กปฐมวัยได้เนื่องจากการเล่นถือเป็นหัวใจสำคัญของเด็กและยังช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กในหลาย ๆด้านด้วยกัน ทั้งพัฒนาการทางด้านร่างกาย ด้านปัญญา ด้านภาษา ด้านอารมณ์ ด้านสังคม ตลอดจนพัฒนาการทางด้านจิตใจ เด็ก ๆจะเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยผ่านการเล่นอันเป็นธรรมชาติการเรียนรู้ของพวกเขากิจกรรมดังกล่าวนอกจากเด็กจะได้รับความสนุกสนานแล้วยังเกิดการเรียนรู้ทางสังคม วัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันกฎกติกา มารยาทในการเล่น ท้องถิ่นแวดล้อมรอบตัวเด็กควบคู่กันด้วย