การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดบำรุงธรรม) เทศบาลเมืองสระบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ จำนวน 5 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และแบบวัดเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ใช้เวลาจำนวน 15 คาบ แบบแผนการศึกษาเป็นแบบ One-Group Pretest-Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานใช้สถิติ คือ t-test for Dependent Samples
ผลการศึกษา พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 82.32/80.65 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. เจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบปฏิบัติการ เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01