เอกสารประกอบการเรียนเรื่องพุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย
ผู้วิจัย นางสาวจิรณัฐธภัค ควรแถลง
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1ใช้กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา)ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2560จำนวน 6คน วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3จำนวน 7เล่ม 2) แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน ในเอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3มีจำนวน 7เล่มและ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3จำนวน 20แผน ใช้เวลาสอน20ชั่วโมง มีค่าดัชนีความสอดคล้อง อยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00และค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง .77-.95 สถิติที่ใช้คือค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สูตรประสิทธิภาพE1/E2 ตามเกณฑ์ 80/80 สถิติ t-test แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุดพุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2560โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80ทั้ง 7 เล่ม
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม ภาคเรียนที่ 2 ใช้ในปีการศึกษา 2560โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนทั้ง7 เล่ม
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1ใช้กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา)ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2560จำนวน 6คน วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3จำนวน 7เล่ม 2) แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน ในเอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3มีจำนวน 7เล่มและ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3จำนวน 20แผน ใช้เวลาสอน20ชั่วโมง มีค่าดัชนีความสอดคล้อง อยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00และค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง .77-.95 สถิติที่ใช้คือค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สูตรประสิทธิภาพE1/E2 ตามเกณฑ์ 80/80 สถิติ t-test แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุดพุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2560โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80ทั้ง 7 เล่ม
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชุด พุทธศาสนาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม ภาคเรียนที่ 2 ใช้ในปีการศึกษา 2560โรงเรียนวัดตะโหนด (ประชารักษ์เวสสถิตวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนทั้ง7 เล่ม