การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาE
เพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางลัดดาวัลย์ บุญเรือง
หน่วยงาน โรงเรียนบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 2) ประเมินประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 ออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 3 นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ ขั้นตอนที่ 4 ประเมินประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัด
กาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 12 ห้องเรียน จำนวน 506 คน จัดชั้นเรียนแบบคละความสามารถของผู้เรียน ระหว่างเด็กเก่ง เด็กปานกลาง และเด็กอ่อน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 41 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยสุ่มเป็นห้องเรียน
ซึ่งแต่ละห้องมีการจัดชั้นเรียนแบบคละความสามารถ
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อเรียกว่า (MALAE Model) มีองค์ประกอบของรูปแบบ 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ เน้นผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยการแสวงหาความรู้โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบัติกิจกรรมตามภาระงาน และผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ 2) วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เนื้อหา ได้แก่ สาระการเรียนรู้ในรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ32102 หน่วยการเรียนรู้ Take a Break และหน่วยการเรียนรู้ Visions of the Future 4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ (1) กระตุ้นความสนใจ (Motivating: M) (2) เรียนรู้กระบวนการคิดวิเคราะห์ (Analyzing: A) (3) เรียนรู้ร่วมกัน (Learning Together: L) (4) ประยุกต์ใช้กระบวนการคิด (Applying Thinking Process: A) (5) ประเมินผล
(Evaluating: E) 5) การวัดและประเมินผล 2 ด้าน คือ ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 4 ด้าน ได้แก่ การจับคู่ การจำแนก การระบุข้อผิดพลาด และการสรุปความ และ 6) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย ผู้เรียนต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานในด้านภาษาสำหรับการเรียนรู้เนื้อหาใหม่ ใช้ภาระงานหรือกิจกรรมที่มอบหมายเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ สมาชิกในกลุ่มควรประกอบไปด้วยผู้เรียนที่มีความสามารถในการเรียนรู้แตกต่างกัน เนื้อหาต้องมีประเด็นให้คิดวิเคราะห์ ซึ่งลักษณะของเนื้อหาต้องให้ผู้เรียนสามารถจับคู่ จำแนก ระบุข้อผิดพลาด และสรุปความ พบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.20/85.00
2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า 2.1) นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (MALAE Model) มีทักษะในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจหลังเรียนสูงว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2) นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2.3) นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x-bar =4.71, S.D = 0.45)