การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาส
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว
ผู้วิจัย : นางสาวกัลยา ป้องปก ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
ปีการศึกษา : 2558
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วย
การเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาสประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการ
เรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 2
หนองบัว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 ชุด มีค่าความเหมาะสมอยู่ในเกณฑ์ระดับมาก ( X =
4.23, S.D. = 0.63) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ มีค่า
อำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.22 - 0.75 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.47 – 0.80 และแบบประเมิน
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82
และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test Dependent Sample
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ที่สร้างขึ้นมี
ประสิทธิภาพ 84.76/81.25
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ที่สร้างขึ้นโดยรวมจัดอยู่ระดับมาก
หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว
ผู้วิจัย : นางสาวกัลยา ป้องปก ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
ปีการศึกษา : 2558
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วย
การเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบแอทลาส ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแอทลาสประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการ
เรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 2
หนองบัว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 ชุด มีค่าความเหมาะสมอยู่ในเกณฑ์ระดับมาก ( X =
4.23, S.D. = 0.63) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ มีค่า
อำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.22 - 0.75 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.47 – 0.80 และแบบประเมิน
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82
และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test Dependent Sample
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ที่สร้างขึ้นมี
ประสิทธิภาพ 84.76/81.25
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ น้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ที่สร้างขึ้นโดยรวมจัดอยู่ระดับมาก