พัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ
การพัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญการศึกษาครั้งนี้วัตถุประสงค์ของการวิจัย1) เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
กลุ่มเป้าหมายนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านชีกกค้อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 9 คน จาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection )ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 16 ชั่วโมงเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 3 ชนิด คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้พัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนชีกกค้อ จำนวน 16 แผน 2) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 8 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ข้อสอบแบบปรนัย แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก มีทั้งหมด 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย(P) อยู่ระหว่าง 0.25-0.75 และค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.33-0.64 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมุติฐาน t–test
สรุปผลการศึกษา
1. การพัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 มีประสิทธิภาพเป็น 89.44/86.30 ดังนั้นประสิทธิภาพของกระบวนการการจัดการเรียนรู้ เท่ากับ (E1/E2) 89.44/86.30 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 16.22 คะแนน จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 54.07 ของคะแนนเต็ม ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.59 และนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 25.89 คะแนนจากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.30 ของคะแนนเต็ม ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.30อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
สรุปได้ว่านักเรียนที่เรียนด้วยการพัฒนาการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลทำให้ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเอื้อต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนจึงควรสนับสนุนให้ครูนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศต่อไป