ผลการจัดเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก
ชื่องานวิจัย ผลการจัดเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก เรื่องคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีสารสนเทศ วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย กรภชา เพ็งรัศมี
ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด สำนักการศึกษา เทศบาลนครตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
ปีการศึกษา 2560
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก เรื่องคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80
2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก เรื่องคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster ramdom sampling) แบบแผนการวิจัยที่ใช้ คือ การทดลองแบบ one group pretest-posttest design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก จำนวน 7 แผนการจัดการเรียนรู้ รวม 14 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐาน คือ การทดสอบที (t-test) แบบ Dependent Sample และค่าประสิทธิภาพ E1/E2
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก เรื่องคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.67/83.89 เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก เรื่องคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ในระดับมาก