รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคLT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1)เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย 3)เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย และ 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย อำเภอโซ่พิสัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 28 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster random sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1)แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่ายชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย ซึ่งมีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.60ถึง 1.00 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย ซึ่งมีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย ซึ่งพบว่ามีค่าความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 มีค่าความยาก (p) ระหว่าง 0.24 ถึง 0.80
ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.29 ถึง 0.86 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.79 4)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
เทคนิคLT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย มีค่าความสอดคล้อง (IOC)
ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.39 ถึง 0.89 และมีค่าความเชื่อมั่น(α)เท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความเที่ยงตรง ค่าความยาก ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที(t-test แบบ Dependent samples)
ผลการศึกษา พบว่า
1.การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 83.69/83.81 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2.ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย จากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเท่ากับ 0.7207 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.07
3.นักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01
4.ความพึงพอใจนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เงินและการบันทึกรายรับรายจ่าย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนอนุบาลโซ่พิสัย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด