เผยแพร่ผลงาน
เหลือใช้ โดยเน้นกระบวนการปฏิบัติ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้ศึกษา นางจุฑาธิบดิ์ ศรีวรัญญุตานนท์
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองปราจีนบุรี
บทคัดย่อ
รายงานการใช้แบบเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อสร้างและพัฒนาแบบเรียนสำเร็จรูป ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3. เพื่อประเมินผลความพึงพอใจ โดยใช้แบบเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เรื่อง ดังนี้ 1. เรื่อง การประดิษฐ์ดอกไม้จากหลอด 2. เรื่อง การประดิษฐ์กล่องเอนกประสงค์จากขวดน้ำ 3. เรื่อง การประดิษฐ์กระเป๋าถือจากกล่องนม 4. เรื่อง การประดิษฐ์โมบายแขวนจากกระป๋อง 5. เรื่อง การประดิษฐ์หมวกกันแดดจากกล่องกระดาษ และมีการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ และแบบประเมินความ
พึงพอใจ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการคำนวณ หาค่า (t – test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพดังนี้ เรื่อง การประดิษฐ์กล่องเอนกประสงค์จากขวดน้ำ มีคะแนนมากที่สุด คือ E1 / E2 เท่ากับ 91.33/87.67 รองลงมาคือเรื่อง การประดิษฐ์ดอกไม้จากหลอด มีคะแนน 90.33/88.00 เรื่อง การประดิษฐ์หมวกกันแดดจากกล่องกระดาษ มีคะแนน 89.33/86.67 เรื่อง การประดิษฐ์กระเป๋าถือจากกล่องนม มีคะแนน 89.17/86.00 และเรื่อง การประดิษฐ์โมบายแขวนจากกระป๋อง มีคะแนนต่ำสุด คือ 86.00/87.00 เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่า สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดทุกเรื่อง
2. ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของแบบเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้ง 5 เรื่อง ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. การประเมินความพึงพอใจ พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแก้วพิจิตร) ที่เรียนวิชางานประดิษฐ์ มีความพึงพอใจต่อการเรียนที่เรียนด้วยแบบเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยรวม 4.61 ค่า S.D. เท่ากับ 0.57 อยู่ในระดับ ดีมาก