ผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก
ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวทิพวรรณ อินต๊ะปาง
ปีการศึกษาปีที่ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระหว่างการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก และเพื่อศึกษาผลการเปรียบเทียบ การพัฒนาการทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก จำแนกรายด้านและภาพรวม ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำนวน 20 คน มีวิธีการดำเนินการศึกษาโดยใช้รูปแบบ การทดลองกับประชากรกลุ่มเดียว (One Group Pretest-Posttest Design) คือ ดำเนินการทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และดำเนินการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก แล้วสังเกตพฤติกรรมการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระหว่างการดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผน จำนวน 27 แผน แล้วรวบรวมประมวลผลเป็นช่วงสัปดาห์ จำนวน 9 ครั้ง 9 สัปดาห์ แล้วจึงทำการทดสอบหลังจัดกิจกรรม ด้วยแบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ชุดเดียวกัน เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการศึกษา ได้แก่
( 1 ) คู่มือจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุกจำนวน 27 กิจกรรม ( 2 ) แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุกจำนวน 27 แผน ( 3 ) แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 4 ชุด แล้วจึงทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ศึกษาด้วยค่าเฉลี่ย (µ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และค่าร้อยละ
สรุปผลการศึกษา
1.ผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ระหว่างการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
ทั้งรายพฤติกรรมและภาพรวม พบว่าพฤติกรรมรายด้านและภาพรวม เริ่มสัปดาห์แรกที่มีการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาและมีการประเมินผลการพัฒนา ปรากฏว่า ผลพัฒนาพฤติกรรมอยู่ในระดับปรับปรุง ด้านทักษะการนับจำนวนและตัวเลข (1.40 ) ทักษะการจับคู่ (1.43) ทักษะการเปรียบเทียบ (1.38) ทักษะการเรียงลำดับ (1.38) และภาพรวมผลการพัฒนาทั้ง 4 ทักษะอยู่ในระดับปรับปรุง (1.40) สัปดาห์ต่อมาจัดกิจกรรมและทำการประเมิน ปรากฏว่า รายพฤติกรรมและภาพรวม มีผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นทุกช่วงสัปดาห์ จนถึงสัปดาห์ที่ 9 ทุกพฤติกรรมพัฒนาดีขึ้นอยู่ในระดับดี (2.90, 2.93, 2.88, 2.92 และ 2.91 ตามลำดับ) และผลเฉลี่ยตลอดทั้ง 9 สัปดาห์อยู่ใน ระดับดี (2.28, 2.27, 2.27, 2.27 และ 2.27 ตามลำดับ)
2.ผลการเปรียบเทียบพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์รายพฤติกรรมและภาพรวมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก พบว่า พฤติกรรมรายพฤติกรรมและภาพรวม มีคะแนนแตกต่างกัน โดยก่อนการจัดกิจกรรมพฤติกรรมในด้านทักษะการนับจำนวนและตัวเลข ทักษะการจับคู่ ทักษะการเปรียบเทียบ ทักษะการเรียงลำดับ และภาพรวม มีคะแนน (1.95, 2.10, 1.95, 2.05 และ2.01 ) ตามลำดับ หลังการจัดกิจกรรม นักเรียนทดสอบได้คะแนน (4.90, 4.80, 4.95, 4.85 และ 4.85) ตามลำดับ มีคะแนนแตกต่างกันเท่ากับ (2.95, 2.70, 3.00, 2.80 และ 2.86) ตามลำดับ คิดเป็นความก้าวหน้าร้อยละ(59.00, 54.00, 60.00, 56.00 และ 57.25) ตามลำดับ
ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวทิพวรรณ อินต๊ะปาง
ปีการศึกษาปีที่ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระหว่างการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก และเพื่อศึกษาผลการเปรียบเทียบ การพัฒนาการทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก จำแนกรายด้านและภาพรวม ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำนวน 20 คน มีวิธีการดำเนินการศึกษาโดยใช้รูปแบบ การทดลองกับประชากรกลุ่มเดียว (One Group Pretest-Posttest Design) คือ ดำเนินการทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และดำเนินการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก แล้วสังเกตพฤติกรรมการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระหว่างการดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผน จำนวน 27 แผน แล้วรวบรวมประมวลผลเป็นช่วงสัปดาห์ จำนวน 9 ครั้ง 9 สัปดาห์ แล้วจึงทำการทดสอบหลังจัดกิจกรรม ด้วยแบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ชุดเดียวกัน เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการศึกษา ได้แก่
( 1 ) คู่มือจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุกจำนวน 27 กิจกรรม ( 2 ) แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุกจำนวน 27 แผน ( 3 ) แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 4 ชุด แล้วจึงทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ศึกษาด้วยค่าเฉลี่ย (µ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และค่าร้อยละ
สรุปผลการศึกษา
1.ผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ระหว่างการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
ทั้งรายพฤติกรรมและภาพรวม พบว่าพฤติกรรมรายด้านและภาพรวม เริ่มสัปดาห์แรกที่มีการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาและมีการประเมินผลการพัฒนา ปรากฏว่า ผลพัฒนาพฤติกรรมอยู่ในระดับปรับปรุง ด้านทักษะการนับจำนวนและตัวเลข (1.40 ) ทักษะการจับคู่ (1.43) ทักษะการเปรียบเทียบ (1.38) ทักษะการเรียงลำดับ (1.38) และภาพรวมผลการพัฒนาทั้ง 4 ทักษะอยู่ในระดับปรับปรุง (1.40) สัปดาห์ต่อมาจัดกิจกรรมและทำการประเมิน ปรากฏว่า รายพฤติกรรมและภาพรวม มีผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นทุกช่วงสัปดาห์ จนถึงสัปดาห์ที่ 9 ทุกพฤติกรรมพัฒนาดีขึ้นอยู่ในระดับดี (2.90, 2.93, 2.88, 2.92 และ 2.91 ตามลำดับ) และผลเฉลี่ยตลอดทั้ง 9 สัปดาห์อยู่ใน ระดับดี (2.28, 2.27, 2.27, 2.27 และ 2.27 ตามลำดับ)
2.ผลการเปรียบเทียบพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์รายพฤติกรรมและภาพรวมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเวียงฝาง ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมเกมการศึกษาคณิตศาสตร์คิดสนุก พบว่า พฤติกรรมรายพฤติกรรมและภาพรวม มีคะแนนแตกต่างกัน โดยก่อนการจัดกิจกรรมพฤติกรรมในด้านทักษะการนับจำนวนและตัวเลข ทักษะการจับคู่ ทักษะการเปรียบเทียบ ทักษะการเรียงลำดับ และภาพรวม มีคะแนน (1.95, 2.10, 1.95, 2.05 และ2.01 ) ตามลำดับ หลังการจัดกิจกรรม นักเรียนทดสอบได้คะแนน (4.90, 4.80, 4.95, 4.85 และ 4.85) ตามลำดับ มีคะแนนแตกต่างกันเท่ากับ (2.95, 2.70, 3.00, 2.80 และ 2.86) ตามลำดับ คิดเป็นความก้าวหน้าร้อยละ(59.00, 54.00, 60.00, 56.00 และ 57.25) ตามลำดับ