ขออนุญาตเผยแพร่ผลงาน
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวปราณี ปถม
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง เทศบาลเมืองพังงา จังหวัดพังงา จำนวน 37 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 12 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t – test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รวม 12 เล่ม มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.19/85.94 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนและก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
ผู้วิจัย นางสาวปราณี ปถม
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง เทศบาลเมืองพังงา จังหวัดพังงา จำนวน 37 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 12 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t – test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รวม 12 เล่ม มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.19/85.94 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนและก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ บูรณาการค่านิยม 12 ประการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก