การพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้รายงาน นางนวลศิริ ศิลธรรม
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลหนองบัวจังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัย (1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดการ
เรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียน
ด้วยชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster
Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญ
ทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ใช้
ประกอบชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 จำนวน 15 แผน ใช้เวลาสอน 15 ชั่วโมง 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ประกอบการใช้ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลหนองบัว
แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.34 -0.51
ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.49 – 0.84 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.97 และ
4. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วน ประมาณค่า
(Rating scale) ตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert) มี 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบ ใช้สถิติทดสอบ t – test (Dependent Sample)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1 /E2) มีค่าเท่ากับ 83.70/82.50
2. ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าดัชนีประสิทธิผล
(E.I.) เท่ากับ 0.6978
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้รายงาน นางนวลศิริ ศิลธรรม
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลหนองบัวจังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัย (1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดการ
เรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียน
ด้วยชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster
Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญ
ทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ใช้
ประกอบชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 จำนวน 15 แผน ใช้เวลาสอน 15 ชั่วโมง 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ประกอบการใช้ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลหนองบัว
แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.34 -0.51
ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.49 – 0.84 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.97 และ
4. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา และศาสนพิธี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วน ประมาณค่า
(Rating scale) ตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert) มี 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบ ใช้สถิติทดสอบ t – test (Dependent Sample)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1 /E2) มีค่าเท่ากับ 83.70/82.50
2. ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าดัชนีประสิทธิผล
(E.I.) เท่ากับ 0.6978
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง วันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก