LASTEST NEWS

29 พ.ย. 2567โรงเรียนชลกันยานุกูล ประกาศปิดกรณีพิเศษ หยุดเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2-3 ม.ค.68 มีผลหยุดยาว 9 วัน ตั้งแต่ 28 ธ.ค. 67 - 5 ม.ค.68 29 พ.ย. 2567โรงเรียนไพศาลีพิทยา รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 10,000.- บาท สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 6 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567วิทยาลัยสารพัดช่างตราด รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 19 - 27 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567วิทยาลัยเทคนิคเลย รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 6 - 16 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รับสมัครครูอัตราจ้าง เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค.2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 10,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567สพฐ.มีหนังสือ ด่วนที่สุด! ให้นำแนวทาง PISA มาใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการสรรหาบุคลากร ทุกตำแหน่ง 27 พ.ย. 2567บอร์ดก.ค.ศ.เคาะร่างแนวปฏิบัติการย้ายครู ผ่านระบบ TRS เตรียมเปิดใช้งาน มกราคม 2568 27 พ.ย. 2567โรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาจีน เงินเดือน 12,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567ด่วนที่สุด!! ที่ ศธ 04009/ว7543 เรื่อง การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์

usericon

ชื่อเรื่อง    การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย        นางมยุรี ฟักฟูม

ปีที่วิจัย        2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 38 คน โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา แบบวัดจิตวิทยาศาสตร์และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ตามแนวรูปแบบการเรียนการสอนสอนวิชาวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสถิติที แบบไม่เป็นอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า
    1. ผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชา
วิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากครูผู้สอนวิทยาศาสตร์และนักเรียน พบว่า โดยภาพรวม มีความต้องการในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกำหนดปัญหา การสืบค้นข้อมูล การคิดและแก้ปัญหา ออกแบบการเรียนรู้ดำเนินการทดลองและสรุปด้วยตนเองเพื่อนำไปสู่การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาตามลำดับ และการมีจิตวิทยาศาสตร์
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีชื่อว่า “GPDR Model ” มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการการจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมิน โดยกระบวนการการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย 4 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 จุดประกายความคิด ค้นพบปัญหา (G ) ขั้นที่ 2 ขั้นเตรียมการเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับปัญหา (P) ขั้นที่ 3 พัฒนาการเรียนรู้ วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (D) และขั้นที่ 4 ขั้นสะท้อนผลการเรียนรู้ ติดตามและประเมินผลการแก้ปัญหา (R) ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.51/81.42 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
3. ผลการทดลองใช้ รูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
3.1 ผลการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา และจิตวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.23/82.57 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
3.2 หลังเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ (GPDR Model) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.3 หลังเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ (GPDR Model) นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.4 หลังเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ (GPDR Model) นักเรียนมีจิตวิทยาศาสตร์ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ (GPDR Model) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^