ผลการสร้างและการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนโดยการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านสันกอง อำเภอแม่จัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 23 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากผู้ศึกษาปฏิบัติหน้าที่เป็นครูประจำชั้น ได้ดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสอบถามความพึงพอใจและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ศึกษา คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการตอบแบบสอบถาม ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test dependent samples) พร้อมกับนำเสนอข้อมูลโดยการบรรยายใต้ตารางด้วยความเรียง
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ เล่มที่ 1–10 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเฉลี่ยร้อยละ 80/80 ทุกเล่ม โดยภาพรวมได้เท่ากับ 86.54/84.44
2. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าการทดสอบก่อนเรียนจากคะแนนเต็ม 30 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 11.22 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 37.39 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 27.91 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 93.04 และคะแนนความก้าวหน้าเท่ากับ 16.69 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 55.65
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ พบว่าในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( = 2.96, S.D. = 0.17)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ เล่มที่ 1–10 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเฉลี่ยร้อยละ 80/80 ทุกเล่ม โดยภาพรวมได้เท่ากับ 86.54/84.44
2. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าการทดสอบก่อนเรียนจากคะแนนเต็ม 30 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 11.22 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 37.39 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 27.91 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 93.04 และคะแนนความก้าวหน้าเท่ากับ 16.69 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 55.65
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน ชุด เศรษฐศาสตร์น่ารู้ พบว่าในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( = 2.96, S.D. = 0.17)