การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางยุภา พลเยี่ยม
ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ(1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2(4) เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2(5)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 30 คนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน40 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่0.23 – 0.87มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ0.75แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ค่าความยากตั้งแต่ 0.37 –0.67 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.20 - 0.67มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ0.89 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน15 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.48 – 0.91 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2มีประสิทธิภาพเท่ากับ81.06/80.17
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6771หรือคิดเป็นร้อยละ 67.71
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69)
เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางยุภา พลเยี่ยม
ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ(1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2(4) เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2(5)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 30 คนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน40 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่0.23 – 0.87มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ0.75แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ค่าความยากตั้งแต่ 0.37 –0.67 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.20 - 0.67มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ0.89 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน15 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.48 – 0.91 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2มีประสิทธิภาพเท่ากับ81.06/80.17
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6771หรือคิดเป็นร้อยละ 67.71
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเรื่องสารเคมีและปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69)