ครูน้ำผึ้ง พันตาวงษ์:การพัฒนาทักษะการฟังและการพูด นักเรียน อ.2
เรื่อง การพัฒนาทักษะการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี (สังวรจันทสรราษฎรวิทยา) โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง
ผู้ศึกษา นางน้ำผึ้ง พันตาวงษ์
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี (สังวรจันทสรราษฎรวิทยา)
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อ1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบคะแนนทักษะการฟังและการพูด ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง 3) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/3โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี (สังวรจันทสรราษฎรวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบประเมินคุณภาพของหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด 2) หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 3) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด 4) แบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 5) แบบสังเกตพฤติกรรมทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 6) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าร้อยละ (Percentage) และส่วนความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐานใช้สถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด มีค่า (E1/E2) เท่ากับ 82.28/89.67 และ 81.31/80.11 ตามลำดับ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้
2. คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูด หลังเรียนสูงกว่าคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูด ก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด ด้านทักษะการฟังของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6889 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6886 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.89 และด้านทักษะการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5861 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.5861 หรือคิดเป็นร้อยละ 58.61
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด ปรากฏผลโดยภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
ผู้ศึกษา นางน้ำผึ้ง พันตาวงษ์
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี (สังวรจันทสรราษฎรวิทยา)
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อ1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบคะแนนทักษะการฟังและการพูด ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง 3) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/3โรงเรียนเทศบาลวัดดอนไก่ดี (สังวรจันทสรราษฎรวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบประเมินคุณภาพของหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด 2) หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 3) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด 4) แบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 5) แบบสังเกตพฤติกรรมทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 6) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าร้อยละ (Percentage) และส่วนความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐานใช้สถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด มีค่า (E1/E2) เท่ากับ 82.28/89.67 และ 81.31/80.11 ตามลำดับ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้
2. คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูด หลังเรียนสูงกว่าคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดทักษะการฟังและการพูด ก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด ด้านทักษะการฟังของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6889 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6886 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.89 และด้านทักษะการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2โดยใช้หนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5861 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.5861 หรือคิดเป็นร้อยละ 58.61
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อหนังสือภาพเชิงสร้างสรรค์ประกอบคำคล้องจอง เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูด ปรากฏผลโดยภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก