การพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้แบบฝึกกลุ่ม
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้แบบฝึก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผู้ศึกษาวิจัย นางวราภรณ์ คำหงษา
สถานที่ทำงาน โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง และพัฒนาแบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐
และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่กำหนด เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับ
หลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้แบบฝึก ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา กลุ่มเป้าหมาย
เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ จำนวน ๑๓ คน ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีค่าความเที่ยงตรงระหว่าง ๐.๘๐-๑.๐๐ แผนการจัดการเรียนรู้ มีความเที่ยงตรงเท่ากับ ๑.๐๐ และมีแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีค่าความยากระหว่าง ๐.๒๖-๐.๘๘ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง ๐.๒๔-๐.๘๒ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๐ และ แบบสอบถามความพึงพอใจมีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง ระหว่าง ๐.๔๖ - ๐.๘๘ และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๒ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ค่าความเที่ยงตรง ค่าความยาก ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างโดยการทดสอบทีแบบวิลคอกซอน ซายน์ แรงค์ (The Wilcoxon Singe Ranks Test)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ประสิทธิภาพของแบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ๘๐/๘๐ มีประสิทธิภาพ ๘๖.๐๙/๘๒.๕๖
๒. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ มีค่าเท่ากับ ๐.๖๗๐๓ นักเรียนได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๖๗.๐๓
๓. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชน
บ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกการอ่าน
และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผู้ศึกษาวิจัย นางวราภรณ์ คำหงษา
สถานที่ทำงาน โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง และพัฒนาแบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐
และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่กำหนด เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับ
หลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้แบบฝึก ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา กลุ่มเป้าหมาย
เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ จำนวน ๑๓ คน ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีค่าความเที่ยงตรงระหว่าง ๐.๘๐-๑.๐๐ แผนการจัดการเรียนรู้ มีความเที่ยงตรงเท่ากับ ๑.๐๐ และมีแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีค่าความยากระหว่าง ๐.๒๖-๐.๘๘ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง ๐.๒๔-๐.๘๒ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๐ และ แบบสอบถามความพึงพอใจมีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง ระหว่าง ๐.๔๖ - ๐.๘๘ และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๒ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ค่าความเที่ยงตรง ค่าความยาก ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างโดยการทดสอบทีแบบวิลคอกซอน ซายน์ แรงค์ (The Wilcoxon Singe Ranks Test)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ประสิทธิภาพของแบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ๘๐/๘๐ มีประสิทธิภาพ ๘๖.๐๙/๘๒.๕๖
๒. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ มีค่าเท่ากับ ๐.๖๗๐๓ นักเรียนได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๖๗.๐๓
๓. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่าน และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชน
บ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกการอ่าน
และการเขียนคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งคล้าวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๑ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก