รายงานการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางดวงจันทร์ รัตนแคล้ว ครูชำนาญการ โรงเรียนอนุบาลตรัง อำเภอเมืองตรัง
จังหวัดตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและพัฒนาแบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง คำพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกพัฒนา การอ่านการเขียนคำพื้นฐานกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 ที่มีต่อการจัด การเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 จำนวน 6 ห้องเรียน 245 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 จำนวน 1 ห้องเรียน 46 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 เล่ม รวม 20 แบบฝึก 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง คำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน ในแบบฝึกพัฒนา การอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 3 ตัวเลือก เล่มละ 1 ชุด จำนวน 7 ชุด ชุดละ 10 ข้อ 4. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 22 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวม 22 ชั่วโมง รวมเวลาทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกพัฒนา การอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและหาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าความยาก-ง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่น ค่าความแปรปรวน ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) การหาประสิทธิภาพ 80/80 (E1/E2 ) และค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่า (Alpha coefficient) ใช้สถิติ t (t-test for Dependent Sample) และ ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) สำหรับทดสอบสมมติฐาน
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถม-
ศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.77/78.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง คำพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 เท่ากับ 0.6289 หรือคิดเป็นร้อยละ 62.89
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุบาลตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 2.72, S.D. = 0.44 )