รายงานผลการพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
การพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่จัด
การเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มด้วยการจับฉลาก จำนวน 1 ห้องเรียนจากห้องเรียนทั้งหมด 5 ห้องเรียนทำการพัฒนาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 สอนสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ทั้งหมด 11 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 22 ชั่วโมง (รวมการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าทางสถิติได้แก่ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย (x-bar) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สถิติเปรียบเทียบใช้สถิติ t - test แบบไม่อิสระ (Dependent) ผลการพัฒนาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.85/84.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด (x-bar= 4.38, S.D = 0.55)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่จัด
การเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มด้วยการจับฉลาก จำนวน 1 ห้องเรียนจากห้องเรียนทั้งหมด 5 ห้องเรียนทำการพัฒนาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 สอนสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ทั้งหมด 11 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 22 ชั่วโมง (รวมการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าทางสถิติได้แก่ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย (x-bar) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สถิติเปรียบเทียบใช้สถิติ t - test แบบไม่อิสระ (Dependent) ผลการพัฒนาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.85/84.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด (x-bar= 4.38, S.D = 0.55)