LASTEST NEWS

28 พ.ย. 2567วิทยาลัยสารพัดช่างตราด รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 19 - 27 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567วิทยาลัยเทคนิคเลย รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 6 - 16 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รับสมัครครูอัตราจ้าง เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค.2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 10,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567สพฐ.มีหนังสือ ด่วนที่สุด! ให้นำแนวทาง PISA มาใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการสรรหาบุคลากร ทุกตำแหน่ง 27 พ.ย. 2567บอร์ดก.ค.ศ.เคาะร่างแนวปฏิบัติการย้ายครู ผ่านระบบ TRS เตรียมเปิดใช้งาน มกราคม 2568 27 พ.ย. 2567โรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาจีน เงินเดือน 12,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567ด่วนที่สุด!! ที่ ศธ 04009/ว7543 เรื่อง การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 27 พ.ย. 2567สพฐ. กำชับเขตพื้นที่เร่งคลายทุกข์ลูกจ้าง เดินหน้าพาเด็กกลับเข้าระบบการศึกษา พร้อมจัดงบประมาณแนวใหม่ตอบโจทย์นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” 26 พ.ย. 2567สพฐ. เข้ม สั่งครูล่วงละเมิดนักเรียนออกจากราชการทันที ย้ำดูแลสภาพจิตใจเด็กเป็นสำคัญ

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ (English Reading Skill Exercise)

usericon

เรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ (English Reading Skill Exercise) เรื่องทักษะพื้นฐานการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านเขว้าวิทยายน
ผู้รายงาน นางนฤมล กกกลาง
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านเขว้าวิทยายน อำเภอบ้านเขว้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30
ปีที่พิมพ์ ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ
การรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้เรื่องทักษะพื้นฐานการอ่านภาษาอังกฤษ 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ (English Reading Skill Exercise) เรื่องทักษะพื้นฐานการอ่านภาษาอังกฤษ รายวิชาภาษาอังกฤษ (อ22101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนบ้านเขว้าวิทยายน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 23 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 14 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ 5 เล่ม ที่มีความสอดคล้องเหมาะสมมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยทุกเล่มเท่ากับ 4.76 จัดกิจกรรมด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ 10 แผน ที่มีความสอดคล้องเหมาะสมมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยทุกแผนเท่ากับ 4.78 ใช้เวลา 15 ชั่วโมง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.20 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก 0.20 – 1.00 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85 แบบสอบถามความพึงพอใจ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละและสถิติ t-test (Dependent Sample t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.68/86.52 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ได้ผลสรุปในแต่ละเล่ม ดังนี้
2.1 เล่มที่ 1 เรื่อง My Family นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน โดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 4.39 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 43.91
2.2 เล่มที่ 2 เรื่อง My daily routine นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนโดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 4.26 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 42.6
2.3 เล่มที่ 3 เรื่อง At the field นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนโดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 4.17 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 41.74
2.4 เล่มที่ 4 เรื่อง My bedroom นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนโดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 4.22 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 42.17
2.5 เล่มที่ 5 เรื่อง My favorite place นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนโดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 3.91 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 39.13
ผลการวิเคราะห์ด้วยสถิติ t-test (Dependent Sample Test) เปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ มีค่าเท่ากับ 0.76 มีประสิทธิภาพที่ยอมรับได้ ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 76.46
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77


ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^