รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา หน่วยการเรียนรู้โครงส
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา หน่วยการเรียนรู้โครงสร้างและหน้าที่
ของพืชดอก โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5 ขั้น) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้รายงาน นางสาวสุธีวัลย์ บุติมาลย์
โรงเรียน โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
ปีการศึกษา 2560
รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา หน่วยการเรียนรู้โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5 ขั้น) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์คือ (1) เพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา หน่วยการเรียนรู้โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5 ขั้น) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา หน่วยการเรียนรู้โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5 ขั้น) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา หน่วยการเรียนรู้โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5 ขั้น) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
(4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา
หน่วยการเรียนรู้โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5 ขั้น) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/10 โรงเรียนประสาทวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3) แบบสอบถาม
ความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าคะแนนเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S) ค่าร้อยละ (P) และ t-test
ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยา พบว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชีววิทยามีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.19/82.96 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียน พบว่านักเรียนมีคุณภาพทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 และผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน พบว่านักเรียนมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยเท่ากับ 4.13 แสดงว่านักเรียน
มีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับมาก ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้