การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
บทคัดย่อ
ชื่อวิจัยที่ศึกษา การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) รายวิชาภาษาอังกฤษ 5 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
ผู้วิจัย นางภริตพร อุนะพำนัก
ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ปีการศึกษา 2560
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการเรียนของนักเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/9 และมัธยมศึกษาปีที่ 3/15 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 62 คน ซึ่งได้มาวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ของมัธยมศึกษาปีที่ 3/9 จำนวน 6 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง The Royal Project จำนวน 6 แผน แผนละ 3 ชั่วโมง จำนวน 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.20 ถึง .08 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.935 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) จำนวน 15 ข้อ เป็นแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .091 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.07/80.81
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.45, S.D. = 0.79)
ชื่อวิจัยที่ศึกษา การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) รายวิชาภาษาอังกฤษ 5 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
ผู้วิจัย นางภริตพร อุนะพำนัก
ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ปีการศึกษา 2560
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการเรียนของนักเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/9 และมัธยมศึกษาปีที่ 3/15 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 62 คน ซึ่งได้มาวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ของมัธยมศึกษาปีที่ 3/9 จำนวน 6 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง The Royal Project จำนวน 6 แผน แผนละ 3 ชั่วโมง จำนวน 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.20 ถึง .08 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.935 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) จำนวน 15 ข้อ เป็นแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .091 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.07/80.81
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกทักษะ The Royal Project ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.45, S.D. = 0.79)