การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ
โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning)
เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางชมภูนุช โพธิจักร์
ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
สถานศึกษา โรงเรียนตกพรมวิทยาคาร ตำบลตกพรม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อศึกษาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 31 คน (เป็นการรวมห้องเรียน ประกอบด้วย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 19 คน และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 12 คน) ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนตกพรมวิทยาคาร ตำบลตกพรม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17 ได้มาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selected) โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest - Posttest Design) ระยะเวลาในการทดลอง คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 รหัสวิชา อ31104 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง In real life 4 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 รหัสวิชา อ31104 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.36 - 0.75 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.36 - 0.84 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 2) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.26 – 0.85 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning)
เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 84.52/83.10 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning)
เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.56 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 56
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life หลังเรียน
สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life โดยรวม
สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ( = 16.56, S.D. = 3.42)
5. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีผลต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.41, S.D. = 0.64) ด้านที่มีความพึงพอใจมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ด้านที่ 4 เนื้อหาของแบบฝึกทักษะ สามารถนำไปเป็นพื้นฐานในระดับที่สูงขึ้นได้ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63,
S.D. = 0.63) รองลงมาคือ ด้านที่ 2 การเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ
มากยิ่งขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = 0.50) รองลงมาคือ ด้านที่ 3 แบบฝึกทักษะ
ทำให้เกิดทักษะในการปฏิบัติกิจกรรม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D. = 0.58) และด้านที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ ด้านที่ 8 กิจกรรมในแบบฝึกทักษะเหมาะสมกับเวลา อยู่ในระดับมาก
( = 4.11, S.D. = 0.75)
โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning)
เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางชมภูนุช โพธิจักร์
ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
สถานศึกษา โรงเรียนตกพรมวิทยาคาร ตำบลตกพรม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อศึกษาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 31 คน (เป็นการรวมห้องเรียน ประกอบด้วย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 19 คน และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 12 คน) ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนตกพรมวิทยาคาร ตำบลตกพรม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17 ได้มาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selected) โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest - Posttest Design) ระยะเวลาในการทดลอง คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 รหัสวิชา อ31104 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง In real life 4 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 รหัสวิชา อ31104 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.36 - 0.75 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.36 - 0.84 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 2) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.26 – 0.85 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning)
เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 84.52/83.10 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. แบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning)
เรื่อง In real life สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.56 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 56
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life หลังเรียน
สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life โดยรวม
สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ( = 16.56, S.D. = 3.42)
5. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีผลต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษแบบเน้นงานปฏิบัติ (TBL: Task-based learning) เรื่อง In real life โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.41, S.D. = 0.64) ด้านที่มีความพึงพอใจมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ด้านที่ 4 เนื้อหาของแบบฝึกทักษะ สามารถนำไปเป็นพื้นฐานในระดับที่สูงขึ้นได้ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63,
S.D. = 0.63) รองลงมาคือ ด้านที่ 2 การเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ
มากยิ่งขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = 0.50) รองลงมาคือ ด้านที่ 3 แบบฝึกทักษะ
ทำให้เกิดทักษะในการปฏิบัติกิจกรรม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D. = 0.58) และด้านที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ ด้านที่ 8 กิจกรรมในแบบฝึกทักษะเหมาะสมกับเวลา อยู่ในระดับมาก
( = 4.11, S.D. = 0.75)