การพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD)
เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางวราภรณ์ ถาบุตร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนสารคามพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
แบบฝึกทักษะเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่มีคุณค่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ครูดำเนินการ
จัดการเรียนการสอนเป็นไปตามขั้นตอน สามารถถ่ายทอดเนื้อหาประสบการณ์ที่ซับซ้อนที่เป็นนามธรรมได้ ช่วยให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ และยังเป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนให้มีกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เน้นให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันในการเรียนรู้เป็นกลุ่มย่อย นักเรียนได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเห็นคุณค่าความแตกต่างระหว่างบุคคล จึงเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/15 จำนวน 40 คน ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสารคามพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบ 2 ขั้น (Two – stage sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและ
ร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 แผน รวม 16 ชั่วโมง (2) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 ชุด (3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.47 ถึง 0.69 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.72 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.89 (4) แบบวัดความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)
5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.59 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 88.89/80.08 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์
2. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6952 คิดเป็นร้อยละ 69.52
3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความคงทนในการเรียนรู้
4. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก
โดยสรุปในการวิจัยครั้งนี้ พบว่า การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แบบร่วมมือ (STAD) เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สามารถส่งเสริมความก้าวหน้าในการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีความคงทนในการเรียนรู้ นักเรียนมีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนรู้ และสามารถนำไปประกอบการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี