รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonic
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวรออีสะห์ สาลี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนบ้านกำพวน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำ ด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ การอ่านและการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ.คำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำด้วยPhonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะเรื่อง การอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ แบบเขียนคำตอบ จำนวน 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.08/88.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7700 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7700 คิดเป็นร้อยละ 77.00
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ผู้วิจัย นางสาวรออีสะห์ สาลี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนบ้านกำพวน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำ ด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ การอ่านและการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ.คำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำด้วยPhonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะเรื่อง การอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ แบบเขียนคำตอบ จำนวน 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.08/88.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7700 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7700 คิดเป็นร้อยละ 77.00
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำด้วยวิธี Phonics กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด