รายงานผลการพัฒนาการอ่านจับใจความ (Reading Comprehension)
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาการอ่านจับใจความ (Reading Comprehension)
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้รายงาน นางสาววาทินี เวียงวิเศษ
ปีการศึกษา 2560
โรงเรียน โรงเรียนบุ่งค้าวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28
บทคัดย่อ
การพัฒนาการอ่านจับใจความ (Reading Comprehension) โดยใช้แบบฝึกทักษะ
วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ( Reading Comprehension) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) โดยเทียบกับเกณฑ์การประเมิน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบุ่งค้าวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้อง มีนักเรียนจำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ผลการหาประสิทธิภาพของตามเกณฑ์ 80 / 80 โดยใช้ค่า E1 / E2 หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน ด้วยการทดสอบค่า t (Dependent Samples) และหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเทียบกับเกณฑ์การประเมินด้วยการทดสอบค่า t แบบกลุ่มตัวอย่างเดียว (One-Sample t- test)
ผลการพัฒนาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 86/92 สูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์
ที่กำหนด ( ร้อยละ 75) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้รายงาน นางสาววาทินี เวียงวิเศษ
ปีการศึกษา 2560
โรงเรียน โรงเรียนบุ่งค้าวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28
บทคัดย่อ
การพัฒนาการอ่านจับใจความ (Reading Comprehension) โดยใช้แบบฝึกทักษะ
วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ( Reading Comprehension) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) โดยเทียบกับเกณฑ์การประเมิน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบุ่งค้าวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้อง มีนักเรียนจำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ผลการหาประสิทธิภาพของตามเกณฑ์ 80 / 80 โดยใช้ค่า E1 / E2 หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน ด้วยการทดสอบค่า t (Dependent Samples) และหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเทียบกับเกณฑ์การประเมินด้วยการทดสอบค่า t แบบกลุ่มตัวอย่างเดียว (One-Sample t- test)
ผลการพัฒนาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 86/92 สูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์
ที่กำหนด ( ร้อยละ 75) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01