การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่องการเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0)
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี(Dev C++ 5.0.0)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพญาแลวิทยา
ผู้รายงาน นายวรวุฒิ ฝ่ายสัจจา
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลัง การเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) ที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการรายงานครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียน
เมืองพญาแลวิทยา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 34 คนเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรายงานประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้จากแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) มัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 40 ข้อ 3) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) จำนวน 6 แผนและ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐานด้วย (Dependent Samples) t -test
ผลการศึกษาพบว่า
1) แบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.21/80.96
2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) อยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพญาแลวิทยา
ผู้รายงาน นายวรวุฒิ ฝ่ายสัจจา
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลัง การเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) ที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการรายงานครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียน
เมืองพญาแลวิทยา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 34 คนเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรายงานประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้จากแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) มัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 40 ข้อ 3) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) จำนวน 6 แผนและ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐานด้วย (Dependent Samples) t -test
ผลการศึกษาพบว่า
1) แบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.21/80.96
2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี (Dev C++ 5.0.0) อยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74