รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E)
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา
รหัสวิชา ว31222 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางเบญจมาภรณ์ โสภณมงคลกุล
หน่วยงาน โรงเรียนห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E)
โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา
เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้เสนอ นางเบญจมาภรณ์ โสภณมงคลกุล
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 และ 3) ประเมิน ความพึงพอใจของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4/9 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง แผนการเรียน วิทย์-คณิต จำนวน 31 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้เรียนที่มี ต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรม เป็นแบบสอบถามที่มี 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 และการทดสอบค่าที (t – test Dependent) แล้วนำเสนอโดยการบรรยายผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.18/80.64 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผู้เรียนมีความพึงพอใจหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวม ผู้เรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.30 S.D. = 0.55)
รหัสวิชา ว31222 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางเบญจมาภรณ์ โสภณมงคลกุล
หน่วยงาน โรงเรียนห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E)
โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา
เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้เสนอ นางเบญจมาภรณ์ โสภณมงคลกุล
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 และ 3) ประเมิน ความพึงพอใจของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4/9 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง แผนการเรียน วิทย์-คณิต จำนวน 31 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้เรียนที่มี ต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรม เป็นแบบสอบถามที่มี 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 และการทดสอบค่าที (t – test Dependent) แล้วนำเสนอโดยการบรรยายผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.18/80.64 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผู้เรียนมีความพึงพอใจหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) โดยเสริมการแก้โจทย์ปัญหาเคมีตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวม ผู้เรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.30 S.D. = 0.55)