รายงานผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน
บทคัดย่อ
ชื่อผลงาน : รายงานผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา : อัมพิกา ใจก่อง
กลุ่มสาระ : กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ปีที่ศึกษา : 2560
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การศึกษาผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) ด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ในการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดยั้งเมิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้โครงงานคอมพิวเตอร์โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานจำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ก่อนและหลังการเรียน จำนวน 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าประสิทธิภาพ (E1/ E2 ) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80 โดยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.31 / 82.59
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนและ ก่อนเรียน เท่ากับ 82.59 และ 51.85 ตามลำดับ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.64
3. ผลการเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนและก่อนเรียน เท่ากับ 86.67 และ 48.89 ตามลำดับ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.74 และผลการประเมินความคิดสร้างสรรค์ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 82.95 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37
ชื่อผลงาน : รายงานผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา : อัมพิกา ใจก่อง
กลุ่มสาระ : กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ปีที่ศึกษา : 2560
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การศึกษาผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) ด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ในการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดยั้งเมิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้โครงงานคอมพิวเตอร์โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานจำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ก่อนและหลังการเรียน จำนวน 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าประสิทธิภาพ (E1/ E2 ) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80 โดยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.31 / 82.59
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนและ ก่อนเรียน เท่ากับ 82.59 และ 51.85 ตามลำดับ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.64
3. ผลการเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนและก่อนเรียน เท่ากับ 86.67 และ 48.89 ตามลำดับ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.74 และผลการประเมินความคิดสร้างสรรค์ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 82.95 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่อง การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37