รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น
ชื่อผู้ศึกษา นางสาววิจิตรา นพรัตน์
ปีการศึกษา 2560
หน่วยงานสังกัด โรงเรียนสตรีอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง
รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning)รายวิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) รายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) รายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) รายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/13 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลากมา 1 ห้องเรียน ใช้ระยะเวลาในการศึกษา 16 ชั่วโมง การศึกษาครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยกึ่งทดลอง(Quasi Experimental Research) มีลักษณะการทดลองแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One group pretest–posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 เล่ม 2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเนื้อหาชุดกิจกรรมแต่ละเล่ม 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติทดสอบค่าเฉลี่ยประชากรสองกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน (T-test for Dependent Samples or Paired t-test) ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ผลการศึกษาพบว่า
1) ประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) รายวิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 82.89/81.32
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) นักเรียนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย ( = 4.75) ต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น (Active Learning) รายวิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง พัฒนาการประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3