รายงานการประเมินโครงการการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
โรงเรียนอนุบาลเซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ
ผู้รายงาน นางกรรณิการ์ วงษ์คำด้วง
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
รายงานการประเมินโครงการการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโรงเรียนอนุบาลเซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินสภาพด้านแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินโครงการ ประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นในการดำเนินโครงการ ประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการ และประเมินด้านผลผลิตของโครงการ เมื่อสิ้นสุดโครงการ โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ ซิป (CIPP Model)
กลุ่มตัวอย่างในการประเมิน ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,099 คน จำแนกเป็นครู จำนวน 54 คน คณะกรรมการสถานศึกษาศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน นักเรียน จำนวน 530 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 278 คน และชุมชน จำนวน 132 คน ซึ่งได้มากจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive)และการสุ่มอย่างง่าย (Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 3 ฉบับ โดยแบบสอบถามฉบับที่ 1 ใช้ประเมินก่อนการดำเนินโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .93 แบบสอบถามฉบับที่ 2 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 และแบบสอบถามฉบับที่ 3 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินพบว่า
1. ด้านสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับความเหมาะสมและสอดคล้องของวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ ความเป็นมาของโครงการสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและบริบท ของโรงเรียนในปัจจุบัน ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินการวางแผนการดำเนินงานโครงการ
2. ด้านปัจจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับความเหมาะสมของงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ บุคลากรและอาคารสถานที่ในการดำเนินงานตามโครงการ ตามความคิดเห็นของตามความคิดเห็นของครูและ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อรวม 4 ด้าน พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ คณะกรรมการดำเนินงานและบุคลกรมีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ โรงเรียนมีห้องสมุดที่มีหนังสือ เอกสาร คู่มือครู วารสารต่างๆ ที่ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. ด้านกระบวนการเกี่ยวกับความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินงานตามโครงการที่ปฏิบัติจริง ตามความคิดเห็นของตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อมี่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ โรงเรียนมีแผนปฏิบัติการประจำ ปีที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การดำเนินโครงการนิเทศภายในฯ มีระยะเวลาที่เหมาะสมกับขั้นตอนและวิธีการในการนิเทศ
4. ด้านผลลิตหรือผลงานเกี่ยวกับความสอดคล้องของผลการดำเนินงานโครงการกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และชุมชน มีความสอดคล้องกับผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ ครูเกิดความเข้าใจ ตระหนักและกระตือรือร้น ในการแก้ไขและพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ชุมชนได้มีการแต่งตั้งบุคลกรภายในโรงเรียนเป็นที่ปรึกษา ในกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ของชุมชน
โดยสรุป การประเมินโครงการการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโรงเรียนอนุบาลเซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน แสดงว่าโครงการนี้ดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสมควรดำเนินงานตามโครงการต่อไป
โรงเรียนอนุบาลเซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ
ผู้รายงาน นางกรรณิการ์ วงษ์คำด้วง
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
รายงานการประเมินโครงการการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโรงเรียนอนุบาลเซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินสภาพด้านแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินโครงการ ประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นในการดำเนินโครงการ ประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการ และประเมินด้านผลผลิตของโครงการ เมื่อสิ้นสุดโครงการ โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ ซิป (CIPP Model)
กลุ่มตัวอย่างในการประเมิน ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,099 คน จำแนกเป็นครู จำนวน 54 คน คณะกรรมการสถานศึกษาศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน นักเรียน จำนวน 530 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 278 คน และชุมชน จำนวน 132 คน ซึ่งได้มากจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive)และการสุ่มอย่างง่าย (Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 3 ฉบับ โดยแบบสอบถามฉบับที่ 1 ใช้ประเมินก่อนการดำเนินโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .93 แบบสอบถามฉบับที่ 2 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 และแบบสอบถามฉบับที่ 3 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินพบว่า
1. ด้านสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับความเหมาะสมและสอดคล้องของวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ ความเป็นมาของโครงการสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและบริบท ของโรงเรียนในปัจจุบัน ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินการวางแผนการดำเนินงานโครงการ
2. ด้านปัจจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับความเหมาะสมของงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ บุคลากรและอาคารสถานที่ในการดำเนินงานตามโครงการ ตามความคิดเห็นของตามความคิดเห็นของครูและ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อรวม 4 ด้าน พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ คณะกรรมการดำเนินงานและบุคลกรมีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ โรงเรียนมีห้องสมุดที่มีหนังสือ เอกสาร คู่มือครู วารสารต่างๆ ที่ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. ด้านกระบวนการเกี่ยวกับความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินงานตามโครงการที่ปฏิบัติจริง ตามความคิดเห็นของตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อมี่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ โรงเรียนมีแผนปฏิบัติการประจำ ปีที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การดำเนินโครงการนิเทศภายในฯ มีระยะเวลาที่เหมาะสมกับขั้นตอนและวิธีการในการนิเทศ
4. ด้านผลลิตหรือผลงานเกี่ยวกับความสอดคล้องของผลการดำเนินงานโครงการกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และชุมชน มีความสอดคล้องกับผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ ครูเกิดความเข้าใจ ตระหนักและกระตือรือร้น ในการแก้ไขและพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่วนข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ชุมชนได้มีการแต่งตั้งบุคลกรภายในโรงเรียนเป็นที่ปรึกษา ในกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ของชุมชน
โดยสรุป การประเมินโครงการการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโรงเรียนอนุบาลเซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน แสดงว่าโครงการนี้ดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสมควรดำเนินงานตามโครงการต่อไป